มีโอกาสพบปะผู้บริหารบริษัทอุบล ไบโอ เอทานอล บอกเลย ประทับใจ เพราะที่นั่นเป็นโลกของคนหนุ่มสาวที่มีพลังในการเรียนรู้ เปลี่ยนแปลง และบริหารจัดการ ด้วยกระบวนการทางความคิดที่เรียกได้ว่า “จบ” ในทีเดี่ยว

เริ่มตั้งแต่กระบวนการนำเข้าหัวมันสำปะหลังที่เป็นวัตถุดิบหลักของโรงงาน ที่ฝ่ายจัดการพยายามจะทำให้ปลอดสาร เป็นออแกนิค โดยการใช้ความพยายามเปลี่ยนความคิดของเกษตรกรให้ปลูกมันสำปะหลังที่ปลอดสารเคมี ต้องใช้ความอดทน ในการปรับเปลี่ยน” MY SET”แนวความคิด สร้างแรงจูงใจด้วยการนำเสนอราคาที่สูงกว่าท้องตลาด 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม

นำวิธีบริหารจัดการแบบ ZERO WASTE มาปรับใช้ น้ำเสียทำบ่อบำบัดก่อนส่งไปเป็นน้ำปลูกหญ้าเนเปียหรือส่งน้ำไปให้เกษตรกร  กากมันสำปะหลังนำไปทำปุ๋ย  พลังงานความร้อนมาจากโซลาร์เซลล์ และความร้อนจากของเสีย

ทั้งหมดดำเนินการก่อนที่โลกตะวันตกจะหันมาใช้วิธีการกีดกันทางการค้า แบบใหม่ ที่ให้ทุกคนทุกประเทศ หันมาดูแลสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลพิษให้กับโลก

ทีมผู้บริหาร เริ่มจากคุณนุ่นสุรียส โควสุรัตน์ คนอุบลโดยกำเนิด ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัทอุบล ไบโอ เอทานอล คนตัวเล็กแต่ใจใหญ่ ด้วยกำลังการผลิตเอทานอล 4 แสนตันต่อวันตามที่ได้ขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต โรงงานถือว่าเป็นขนาดที่เกือบใหญ่   โรงใหญ่สุดมีกำลังการผลิต 6 แสนตันต่อวัน  รองลงมาคือ 5 แสนตันต่อวันและ 4 แสนตัน นอกนั้นก็ระดับ 3 แสนตัน

นอกจากจะผลิตเอทานอลแล้ว ยังปรับเปลี่ยนวัตถุดิบ แป้ง จากมันสำปะหลังที่มีคุณสมบติพิเศษคือไม่มีกลูเตน ทำให้คนที่แพ้สามารถกินได้  นำเอาคุณสมบติพิเศษนี้มาผลิตเป็นแป้งทอดกรอบ ชื่อ ทาสุโกะ ส่งขายตลาดทั้งในและต่างประเทศ

“ทาสุโกะ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค จากการสำรวจพบว่าในชั้นวางสินค้าตาม 7-11 ถือว่าชายดีติดอันดับ เพราะคุณสมบัติที่พิเศษ กรอบ นาน ปราศจากกลูเตน  แต่กว่าจะเอา ทาสุโกะ ไปวางใน 7-11 ลำบากพอสมควร เพราะทางเจ้าของกิจการมีเงื่อนไขค่อนข้างเข้มงวด รูปแบบ การวางสินค้า ราคาในการจ่ายค่าวางสินค้าในแต่ละจุด ก็แตกต่างกัน แต่ความพยายามก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี”สุรียสกล่าว

สิ่งที่บริษัทจะพัฒนาไปต่อคือต่อยอดผลผลิตจากแป้งมันสำปะหลังไปทำอย่างอื่นต่อไป ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยและพัฒนาของบริษัทอยู่ระหว่างการค้นคว้า ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ด้านความงาม แป้งทาหน้า หรืออย่างอื่น ๆ

สุรียสบอกอีกว่า แต่สิ่งที่สำคัญและจะดีที่สุดต่อวงการเอทานอลของไทย นันคือการเปิดเสรีแอลกอฮอลล์ ที่ปัจจุบันกรมสรรพสามิตยังขอดำเนินการเพียงผู้เดียว

เพราะเอทานอลบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ก็คือสุรากลั่นชั้นดี ที่รัฐบาลไทยยังไม่ยอมเปิดเสรี แต่ถ้าถามว่าหากอนุญาตแล้วจะทำอะไรต่อยอด สุรียส ตอบโดยไม่ต้องคิดว่า ผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพ ยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์ด้านความสวยงามทีมีตลาดขนาดใหญ่วงเงินสูงเป็นหมื่นๆ ล้านบาท ซึ่งจะดีกว่าการใช้เพื่อการทำสุราเพียงอย่างเดียว

ผลประกอบการของบริษัทขึ้นลงตามสถานการณ์ของผลผลิตมันสำปะหลัง ราคาตลาดโลก ภาวะโลกร้อน  แต่การต่อยอดของผลิตภัณฑ์จะเพิ่มมูลค่าให้กับบริษัทได้มากขึ้น

ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2/2566 ของ UBE สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 1,252.47 ล้านบาท ลดลง 31% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยขาดทุนสุทธิที่ 106.64 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการหยุดซ่อมบำรุงของโรงงานเอทานอลและโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังตามแผนประจำปี และการหยุดโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังชั่วคราว จากการขาดแคลนวัตถุดิบมันสำปะหลัง

สุรียสบอกว่า อยากเห็นประเทศไทยเป็นBIO HUB OF ASIAN ในปี 2570 บริษัทฯ พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจที่ตอบโจทย์ BCG Model และการนำงานวิจัยและเทคโลยีการเพิ่มผลผลิตลดต้นทุน มาพัฒนาส่วนต้นน้ำคือ เกษตรกร ควบคู่ไปกับความร่วมมือที่ต่อเนื่องกับกรมวิชาการเกษตร และ สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ หรือ สวทช. เพื่อสร้างการเติบโตที่ครอบคลุมทุกมิติอย่างยั่งยืน